จรรยาบรรณพื้นฐานสำหรับนักบัญชี

by konkhanthep

จรรยาบรรณพื้นฐาน

จรรยาบรรณพื้นฐานสำหรับนักบัญชี

จรรยาบรรณสำหรับนักบัญชีมีความสำคัญมากสำหรับทุก ๆ องค์กรไม่ว่าเป็นอยู่ในสายธุรกิจอะไรก็ตาม จึงจำเป็นต้องได้กำหนดเป็นจริยธรรมหรือจรรยาบรรณสำหรับนักบัญชีเพื่อส่งเสริมให้การปฏิบัติอย่างซื่อตรง ไม่ว่าจะเป็นสายงานอะไร ทั้งราชการและเอกชนย่อมมีนักบัญชีอยู่เสมอ ๆ ฝ่ายบัญชีที่จะต้องมีความไม่รับผิดชอบ รอบคอบเกี่ยวกับตัวเงิน ความทันต่อเวลา ตรงต่องบการเงิน เพราะเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ไม่เข้าใครออกใคร ดังนั้น จะมีอะไรบ้างไปอ่านกันเลยค่ะ และอย่าลืมติดตาม คนขั้นเทพ

จรรยาบรรณนักบัญชีตามพระราชบัญญัติวิชาชีพบัญชี พ.ศ. 2547 

ตามมาตรา 46 ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีหรือผู้ซึ่งขึ้นทะเบียนไว้กับสภาวิชาชีพบัญชีมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามจรรยาบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี และต้องปฏิบัติหน้าที่ของตน ตามมาตรฐานบัญชี มาตรฐานการสอบบัญชี หรือมาตรฐานอื่นใดที่เกี่ยวข้องที่กำหนดตามพระราชบัญญัตินี้ “บุคคลตามวรรคหนึ่ง ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามจรรยาบรรณหรือมาตรฐานที่กำหนดตามพระราชบัญญัตินี้ให้ถือว่าผู้นั้นประพฤติผิดจรรยาบรรณ” ประกอบไปด้วย 

1. ความโปร่งใส ความเป็นอิสระ ความเที่ยงธรรมและความซื่อสัตย์สุจริต

2. ความรู้ความสามารถและมาตรฐานในการปฏิบัติงาน

3. ความรับผิดชอบต่อผู้รับบริการและการรักษาความลับ

4. ความรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้น ผู้เป็นหุ้นส่วนหรือบุคคลหรือนิติบุคคลที่ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีปฏิบัติหน้าที่ให้

โทษการประพฤติผิดจรรยาบรรณนักบัญชี ตามมาตรา 49  มีดังต่อไปนี้

1. ตักเตือนเป็นหนังสือ

2. ภาคทัณฑ์

3. พักใช้ใบอนุญาต พักการขึ้นทะเบียน หรือห้ามการประกอบวิชาชีพบัญชี

4. เพิกถอนใบอนุญาต เพิกถอนการขึ้นทะเบียนหรือสั่งให้พ้นจากการเป็นสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชี

ตามจรรยาบรรณของนักบัญชีปี 2561 

หลักการพื้นฐานที่ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีต้องปฏิบัติตามทั้งหมด 6 หลักการ ได้แก่ 

1.ความซื่อสัตย์สุจริต ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีต้องปฏิบัติตนอย่างตรงไปตรงมาทางวิชาชีพและทางธุรกิจ หากผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีจัดทำบัญชีหรือนำเสนอรายงานที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่ได้จากการปฏิบัติงานจะถือว่าผิดจรรยาบรรณในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต

2.ความเที่ยงธรรมและความเป็นอิสระ ในการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีจะต้องไม่ยอมให้อคติหรืออิทธิพลใด ๆ มาอยู่เหนือการใช้ดุลยพินิจในการที่จะปฏิบัติงานตามมาตรฐานวิชาชีพ 

3.ความรู้ ความสามารถ ความเอาใจใส่ และการรักษามาตรฐานในการปฏิบัติงาน ในการปฏิบัติหน้าที่ไม่ว่าจะเป็นผู้ทำบัญชีหรือผู้สอบบัญชีจะต้องปฏิบัติหน้าที่ตามความรู้ความสามารถ ความชำนาญทางวิชาชีพ ความรอบคอบ เอาใจใส่และปฏิบัติงานตามมาตรฐานวิชาชีพ ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีจะไม่รับงานเกินกว่าความรู้ความสามารถและความเชี่ยวชาญของตน 

4.การรักษาความลับ ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีจะต้องรักษาความลับของลูกค้าทั้งก่อนรับงาน ระหว่างปฏิบัติงาน และหลังการรับงานเรียบร้อย โดยไม่เปิดเผยข้อมูลลูกค้าโดยไม่ได้รับอนุมัติจากผู้มีอำนาจ หรือไม่นำข้อมูลไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตนหรือบุคคลที่สาม

5.พฤติกรรมทางวิชาชีพ ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีต้องปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง และหลีกเลี่ยงการกระทำที่จะทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อความน่าเชื่อถือของวิชาชีพบัญชี รับผิดชอบต่อผู้รับบริการและผู้ที่ตนปฏิบัติหน้าให้ เช่น สำนักงาน นิติบุคคล ผู้เป็นหุ้นส่วนเป็นต้น

6.ความโปร่งใส ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีต้องปฏิบัติงานตามกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบต่าง ๆ ตามมาตรฐานวิชาชีพที่กำหนดและไม่ปกปิดข้อเท็จจริงหรือบิดเบือนความจริงที่เป็นสาระสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของผู้ใช้งบการเงินได้ การละเว้นไม่แสดงหรือแสดงข้อมูลที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่เป็นสาระสำคัญ จะถือว่าเป็นการผิดจรรยาบรรณในเรื่องความโปร่งใส

ต้องขอขอบคุณผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการเว็บทางหวยออนไลน์

You may also like

Leave a Comment