วิธีจัดตารางเรียนด้วยวิธีการเรียนรู้ที่เหมาะกับประเภทบุคลิกภาพของคุณ
ชั้นเรียนเป็นที่นิยมมากในปัจจุบันเพื่อจัดการเรียนรู้ทักษะใหม่ และวิธีการจัดตารางเรียนก็เป็นสิ่งที่จะช่วยให้คุณมีตารางการเรียนที่ชัดเจน มันจะช่วยให้คุณเติบโตในอาชีพการงานของคุณ บุคลิกที่แตกต่างกันมีวิธีการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน นี่คือเหตุผลที่หลายคนทดลองด้วยวิธีการต่าง ๆ ที่แตกต่างกัน แต่ถ้าคุณไม่ต้องการทดลอง คุณควรที่จะจัดตารางเรียนให้เหมาะสมกับตัวเองซึ่งบทความนี้จะนำเสนอวิธีจัดตารางเรียนให้เหมาะสมกับประเภทบุคลิกภาพของคุณมากที่สุดและช่วยให้คุณวางแผนชั้นเรียนได้อย่างเหมาะสม เรียนรู้เพิ่มเติม คนขั้นเทพ
การเรียนรู้และการจัดตารางเรียนอาจเป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับคนจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณมีตารางงานที่ยุ่งอยู่แล้ว มีอะไรให้ทำมากมายเหลือเกินและไม่มีเวลาพอที่จะทำมันได้ คำถามมักเกิดขึ้นก็คือ ฉันจะจัดตารางเวลาของฉันให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้อย่างไร วิธีหนึ่งคือการใช้วิธีการเรียนรู้ที่เหมาะกับบุคลิกภาพของคุณ บทความนี้จะนำเสนอวิธีการเรียนรู้ต่าง ๆ และอภิปรายข้อดีและข้อเสีย และบทความนี้จะแนะนำวิธีการเรียนรู้ด้วยตนเอง
4 วิธีการจัดตารางเรียนด้วยวิธีการเรียนรู้ที่เหมาะกับประเภทบุคลิกภาพของตนเอง ทำแบบใด?
มีวิธีการเรียนรู้ต่าง ๆ มากมายที่ผู้คนสามารถใช้เพื่อรับทักษะใหม่ๆ บางคนเรียนรู้อย่างเป็นระเบียบ ในขณะที่บางคนเรียนรู้อย่างไม่เป็นระเบียบ การเรียนรู้ความเป็นระเบียบเป็นสิ่งสำคัญเมื่อพูดถึงการจัดตารางเรียน ส่วนนี้จะให้ภาพรวมของวิธีการเรียนรู้บางอย่างและวิธีการนำไปใช้ในกระบวนการจัดตารางเรียน นักเรียนหลายคนไม่ทราบถึงรูปแบบการเรียนรู้ที่แตกต่างกันออกไป รูปแบบการเรียนรู้ขึ้นอยู่กับวิธีที่ผู้คนประมวลผลข้อมูล เรียนรู้ และเก็บรักษาข้อมูล มี 4 รูปแบบการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน
1. ผู้เรียนที่มองเห็นได้ ซึ่งสามารถเรียนรู้จากการดูกราฟ กราฟิก และรูปภาพ
หากผู้ใดรู้ตัวว่าตัวเองมีความจำเกี่ยวกับภาพ หรือสามารถทำความเข้าใจภาพได้ง่ายกว่าตัวหนังสือ หรืออีกนัยยะนึงคือความถนัดทางการสร้างสรรค์ผลงานกราฟฟิก การจัดตารางเรียนเกี่ยวการศึกษาวิชาศิลปะ หรือ คอมพิวเตอร์ ก็นับว่าน่าสนใจไม่ใช่น้อย
2. ผู้เรียนการได้ยินที่เรียนรู้จากการฟังการบรรยายหรือการอภิปราย
หากผู้ใดที่ชื่นชอบในการฟัง ก็ควรจะหาคลิปวิดิโอที่สอดคล้องกับเรื่องที่ตนเองต้องการเรียนรู้ เพื่อจะได้ทหการศึกษาเรื่องต่าง ๆ ผ่านคลิปวิดิโอ
3. ผู้เรียนเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวร่างกายที่เรียนรู้โดยการทำสิ่งต่าง ๆ เช่น การถักนิตติ้งหรือเล่นกีฬา
หากคุณเป็นคนที่ชอบใช้ทักษะร่างกาย ให้คุณลองหากิจกรรมต่าง ๆ ที่คุณสนใจทำนั่นจะช่วยให้คุณเกิดทักษะจากการฝึกฝนเพิ่มมากขึ้น
4. ผู้เรียนทางประสาทสัมผัสที่ชอบสัมผัสหรือดมกลิ่นอะไรบางอย่างก่อนจะเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง
ส่วนการเรียนแบบนี้คงจะเหมาะกับผู้เรียนที่ชื่นชอบในเรื่องของการทำอาหาร จะเหมาะกับหลักสูตรนี้ไม่น้อยเลยแหละ
ดังนั้น การจัดตารางเรียนในสิ่งที่เหมาะกับคุณ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ เพราะมันจะทำให้คุณมีความสนใจในการเรียนมากขึ้น รวมไปถึงได้ประโยชน์จากบทเรียนที่เรียนอย่างเต็มที่โดยไม่เครียดหรือฝืนใจมากเกินไป
