
มาเปรียบเทียบแทบงานเอกชนและงานราชการเป็นอย่างไร ว่าระบบงานแบบไหนที่ตอบโจทย์ความต้องการของเรามากที่สุด ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตและเป้าหมายที่ตั้งไว้ไม่เหมือนกัน ดังนั้นบทความนี้จึงจะมาบอกความแตกต่างการทำงานของ 2 สายงานนี้ จะเป็นอย่างไรนั้น มาดูกัน คนขั้นเทพ
ความแตกต่างของงานราชการ VS งานเอกชน

ขอบอกก่อนเลยว่าเรื่องการทำงานนี้เป็นปัญหาที่ตอบยาก เนื่องจากเป็นเรื่องของปัจเจกบุคคล เนื่องจากคำว่า ดี ของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกันเลยสักคน ที่สำคัญยังมีเป้าหมายของแต่ล่ะคนที่แตกต่างกันอีกด้วย ดังนั้นเราทุกคนมีเรื่องที่โฟกัสและมีความสุขไม่เหมือนกัน มาดูกันเลยว่าข้อดีของแต่ล่ะสายงานนั้นมีอะไรบ้าง
จุดเด่นของงานเอกชน

- ความคล่องตัวและรวดเร็ว เอกชนเวลาคือ ปัจจัยสำคัญของทุก ๆ อย่าง ทุกสิ่งขับเคลื่อนด้วยเวลา และถูกกำหนดไว้ด้วยเวลา งานเอกชนไม่ค่อยสนระหว่างทาง คุณจะทำได้ด้วยวิธีไหน ลัดขั้นตอนอย่างไรก็ได้ แต่ผลลัพธ์ต้องออกมาในเชิงวัดผลได้เป็นสำคัญ
- ก้าวหน้าและแข่งขันสูง ความก้าวหน้าในอาชีพและรักความท้าทายเป็นชีวิตจิตใจ งานเอกชนตอบโจทย์ ด้วยระบบงานที่วัดผลเป็นตัวเลขและคุณภาพงานที่วัดได้ ดังนั้นใครที่ทำผลงานได้ดี ย่อมได้รับความก้าวหน้าทั้งหน้าที่การงาน การเลื่อนตำแหน่งไปสู่ระดับผู้บริหาร
- ค่าตอบแทนคุ้มค่าและสวัสดิการหลากหลาย งานเอกชนด้วยภาระงานและสิ่งที่ต้องรับผิดชอบค่อนข้างสูง ค่าตอบแทนจึงจำเป็นต้องสูงตามไปด้วย เพื่อดึงให้คนยังทำงาน รวมถึงสวัสดิการต่าง ๆ ที่ครอบคลุมทั้งเรื่องสุขภาพกาย สุขภาพใจ
จุดเด่นของงานราชการ

- ช้า ๆ แต่ว่ามั่นคง เพราะความมั่นคงแทบจะเป็นหัวใจหลักของงานราชการ ที่ทำให้หลาย ๆ คนอยากเบนเข็มมาทำงานสายนี้ และจะแลกกับเงินเดือนเริ่มต้นที่ทำร้ายหัวใจกันสมควร เมื่อเทียบกับค่าเงินเฟ้อและเศรษฐกิจยุคนี้ แต่ด้วยความที่เป็นงานมั่นคง ทำแล้วไม่ต้องกังวลว่าจะสภาพเศรษฐกิจ
- สวัสดิการครอบคลุมไปถึงคนในครอบครัว งานราชการเมื่อเทียบกับเอกชนแล้วจะน้อยกว่า แต่ว่าสวัสดิการต่าง ๆ ค่อนข้างครอบคลุม เรียกว่าดูแลไปถึงคนในครอบครัว ทั้งพ่อ แม่ ลูก หากกรณีเจ็บไข้ได้ป่วย คุณสามารถใช้สิทธิ์ราชการเบิกรักษาให้คนที่คุณรักและตัวคุณเองได้ ทั้งนี้อาจจะเบิกได้เต็มหรือบางส่วน ก็แตกต่างกันไปตามระเบียบข้อบังคับในช่วงหลัง รวมถึงมีเงินให้หลังเกษียณ อย่างพวกระบบบำเหน็จบำนาญ
- ไม่ต้องแข่งขันสูง งานราชการต้องยอมรับว่าเนื้องานส่วนใหญ่ของราชการ ระดับความเข้มข้นและมวลแห่งความคุกรุ่นไม่เท่าเอกชนแน่นอน เรียกว่าไม่ต้องแข่งขันอะไรกับใครมาก ต่างคนต่างทำงาน แข่งกับเวลาและตัวเองเป็นหลักก็พอ
ดังนั้นสำหรับงานราชการหรืองานเอกชน ในแต่ละงานก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน มีความยากและความง่ายที่ไม่เหมือนกัน สุดท้ายแล้วนั้นก็ขึ้นอยู่กับคนนั้น ๆ แล้วว่าตนเองนั้นชอบอะไร
ชอบบทความการหารายได้ติดตามใน 101หารายได้