Self-care เทรนด์การรักตัวเองให้มากขึ้น

by konkhanthep

Self-care

Self-care เทรนด์การรักตัวเองให้มากขึ้น เป็นการดูแลตัวเองทำให้ร่างกายที่จะทำให้เราดูแลสุขภาพได้สำเร็จ เป็นหนึ่งในเทรนด์การดูแลตัวเองอย่างยั่งยืนที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ให้ความสำคัญ บทความนี้คนขั้นเทพจะมานำเสนอเรื่องราวดี ๆ มาดูกันเลย

Emotional Self-Care (การดูแลรักษาอารมณ์ให้สมดุล)

เป็นการดูแลรักษาอารมณ์ของเราให้สมดุล รู้ทันอารมณ์ตัวเองและรู้จักจัดการกับอารมณ์ของตัวเอง ไม่ทำอะไรตามใจ ตามอารมณ์ของตัวเองจนทำให้คนอื่นเดือดร้อน ด้วยการทำกิจกรรมที่ช่วยให้เราเชื่อมต่อกับอารมณ์จนสามารถที่จะควบคุมอารมณ์ได้ในเกณฑ์ดี 

ตัวอย่างเช่น การไปพบจิตแพทย์เมื่อต้องการเพื่อขอคำปรึกษา, การฟังเพลง เต้นเมื่อมีความสุข, การมีแผนรับมือกับตัวเองเมื่อมีอารมณ์เศร้าหรือเครียด, การลดการเล่นโซเชียลมีเดียให้น้อยลง, การปลูกต้นไม้ ผักสวนครัว หรือเลี้ยงสัตว์  เป็นต้น

Physical Self-Care (การดูแลสุขภาพกายของตัวเอง)

เป็นการดูแลร่างกายของตัวเองให้แข็งแรง ไม่เจ็บปวด พร้อมที่จะออกไปทำกิจกรรมต่าง ๆ อย่างเต็มที่สมวัย เป็นการรู้จักกินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อสุขภาพร่างกายที่ดี ทำกิจกรรมที่ได้ใช้แรงปานกลาง

ตัวอย่างเช่น การออกกำลังกายให้สมวัยอย่างสม่ำเสมอ, การเพิ่มมื้ออาหารที่ดีต่อสุขภาพให้มากขึ้น กินผัก ผลไม้ ลดเนื้อแดง, การลดหวาน มัน เค็ม ลดการปรุงเพิ่ม กินแต่พออิ่ม, การนอนให้เพียงพอ, เมื่อไหร่ที่เจ็บป่วยก็ให้หยุดพัก รักษาตัวเองให้ดี, การดูแลตัวเองให้ดูดีสมวัย

Practical Self-Care (การดูแลตัวเองในทางปฏิบัติ)  

เป็นการทำงานที่สำคัญต่อชีวิตให้สำเร็จลุล่วง เพื่อเติมเต็มเป้าหมายในชีวิต ทำให้การใช้ชีวิตไม่ติดขัด เพื่ออนาคตที่สดใส ที่สำคัญต้องรู้จักป้องกันไม่ให้เกิดความเครียดในอนาคต หรือเรียกได้ว่าการทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดี

ตัวอย่างเช่น การจดบันทึกรายรับรายจ่ายสม่ำเสมอ, การลงเรียนภาษาใหม่ ๆ, การจัดบ้าน เก็บของในตู้เสื้อผ้าให้เป็นระเบียบเสมอ, การทำอาหารทานเอง, การเรียนให้ดี อ่านหนังสือ, การไม่กลัวที่จะออกไปลองอะไรใหม่ ๆ เพื่อประสบการณ์ชีวิต เป็นต้น

Social Self-Care (การดูแลตัวเองด้านความสัมพันธ์)

เป็นการเอาตัวเองออกไปพบเจอผู้คน ทำกิจกรรมร่วมกับคนอื่น ทำกิจกรรมกลุ่ม เล่นเป็นกลุ่ม เพื่อฝึกใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น ลดความขัดแย้ง สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่นอย่างรู้ขอบเขต

ตัวอย่างเช่น การหาเวลาให้กับคนที่คุณรักให้มากขึ้น, การนัดเจอเพื่อนทั้งเก่าและใหม่เมื่อมีโอกาส, การดูแลคนใกล้ชิด โทรหาหรือส่งข้อความหาเมื่อทำได้, การเข้ากลุ่มเพื่อทำกิจกรรมที่ชอบ, ช่วยเหลือคนใกล้ตัว คนในสังคมเท่าที่ทำได้ เป็นต้น

Mental Self-Care (การดูแลตัวเองด้านสติปัญญา)

เป็นการทำกิจกรรมที่ผ่อนคลายจิตใจ เบา ๆ ไม่เครียด และยังเป็นกิจกรรมที่ต้องฝึกใช้สมองทั้งสองซีก กระตุ้นให้เกิดการคิด การตั้งคำถามกับสิ่งที่ทำอยู่อย่างมีเหตุผลเพื่อให้เรามีสติรู้ตัวอยู่กับปัจจุบัน 

ตัวอย่างเช่น การอ่านหนังสืออะไรก็ได้ที่สนใจ, การต่อจิ๊กซอว์ลายที่ชอบ, การเล่นหมากรุก เล่นเกมฝึกสมองที่ไม่เครียด เป็นต้น

Spiritual Self-Care (การดูแลตัวเองด้านจิตวิญญาณ)

เป็นการดูแล ปกป้องจิตตัวเองให้เข้มแข็ง อนุญาตและมองเห็นว่าตัวเองพัฒนาได้มากกว่าที่เป็นอยู่ กล้าหาญที่จะเชื่อในความคิดของตัวเอง มีอุปสรรคก็สามารถที่จะเอาชนะได้ และไม่ไขว้เขวเมื่อมีใครมาพูดจาไม่ดีหรือดูถูก

ตัวอย่างเช่น การทำสมาธิ ไม่ว่าจะนั่งสมาธิหรือนอนสมาธิ, การเล่นโยคะวันละ 30 นาที, การออกไปเดินสัมผัสธรรมชาติ, การอ่านหนังสือที่ส่งเสริมการเติบโตทางจิตวิญญาณของคุณ

ติดตามบทความมากมายใน กีฬาวาไรตี้

You may also like

Leave a Comment